แอสตร้าเซนเนก้า เผยวัคซีน 1 โดส ลดป่วยรุนแรง สายพันธุ์เบต้า-เดลต้าได้ดี

[ad_1]

แอสตร้าเซนเนก้า เผยวัคซีน 1 โดส ช่วยลดป่วยรุนแรง-เข้ารพ. ป้องกันการเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิดสายพันธุ์เบต้า/แกมมาได้ แปดสิบสอง% และเดลต้าได้ 87%

หวยออนไลน์

หวยออนไลน์ เมื่อวันที่ 5 ส.ค.หกสิบสี่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ออกแถลงการณ์ ก่อตั้งเป็นถ้า “Vaxzevria” วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า หนึ่งโดส ก็ยังมีข้อเสนอประสิทธิภาพสูงในการลดความรุนแรง และการเจ็บป่วยในระดับที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล เนื่องจากการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์เบต้าและเดลต้า

ข้อมูลการใช้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ในแคนาดาแสดงประสิทธิผลของวัคซีนหลังจากฉีดเข็มแรก ช่วยลดการเจ็บป่วยในระดับที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและป้องกันการเสียชีวิตที่เกิดจากการติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เบต้า/แกมมาได้ แปดสิบสอง% และเดลต้าได้ 87%

ผลการศึกษาจากเครือข่ายการวิจัยการสร้างภูมิคุ้มกันโรคของแคนาดา (Canadian Immunization Research Network – CIRN) ภายใต้การสนับสนุนจากสำนักงานสาธารณสุขของแคนาดาและสถาบันวิจัยสุขภาพแห่งชาติ แคนาดา ซึ่งเผยแพร่ในวารสารฉบับก่อนตีพิมพ์ แสดงให้เห็นว่า Vaxzevria หรือวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าหนึ่งโดส ก็ยังมีข้อเสนอประสิทธิผลสูงถึง แปดสิบสอง% ช่วยลดการเจ็บป่วยในระดับที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลหรือการเสียชีวิตที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส SARS-CoV-ทั้งสอง หรือโควิด-19 สายพันธุ์เบต้า/แกมม่า

นอกจากนี้ ข้อมูลยังแสดงให้เห็นว่า วัคซีนมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์เดลต้า (B.1.617.ทั้งสอง หรือสายพันธุ์อินเดีย) และสายพันธุ์อัลฟ่า (B.1.1.7 หรือสายพันธุ์เคนท์) โดยช่วยลดอาการป่วยรุนแรงที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลหรืออัตราการเสียชีวิตได้ถึง 87% และ เก้าสิบ% ดังเช่น 1 ทั้งนี้ ผลการทดสอบประสิทธิผลของวัคซีน Vaxzevria หลังการฉีดเข็มแรกเพื่อป้องกันการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล หรือการเสียชีวิตนั้น ก็ยังมีข้อเสนอระดับตัวเลขที่จะไม่แตกต่างกับวัคซีนอื่นๆ บนนำมาทดสอบในการวิจัยครั้งนี้

โดยระยะเวลาในการติดตามผลยังไม่ค้ำจุนตนเอง บนจะรายงานประสิทธิภาพของ Vaxzevria หลังการฉีดเข็มที่สอง อย่างไรก็ตามก็ยังมีข้อเสนองานวิจัยอื่นๆ บนแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นหลังการฉีดวัคซีนเข็มที่สองตามคำแนะนำในการเว้นระยะเวลาระหว่างการฉีดวัคซีนเข็มแรกและเข็มที่สอง

ผลการศึกษาระบุว่าวัคซีน Vaxzevria ก็ยังมีข้อเสนอประสิทธิภาพในการป้องกันอาการป่วยที่จะไม่สุดขีด โดยเป็นการรายงานผลทดสอบหลังจากการฉีดวัคซีนเข็มแรกเท่านั้น จะไม่ได้รับเป็นข้อมูลหลังการฉีดวัคซีนเข็มที่สองเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันตามการเว้นระยะฉีดตามที่ผู้ได้รับรับมอบหมาย โดยเป็นที่ทราบดีว่าประสิทธิภาพของวัคซีนจะเพิ่มขึ้นเมื่อได้รับเข็มที่สอง ทั้งสอง หลังจากนั้น ทั้งสอง ประสิทธิภาพของวัคซีนในการป้องกันอาการป่วยที่จะไม่รุนแรงนั้นต่ำกว่า เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพในการป้องกันโรครุนแรง โดยประสิทธิภาพของวัคซีนในการป้องกันการติดเชื้อแบบมีอาการไม่ว่าในระดับใดจากโรคโควิด-19 สายพันธุ์เบต้า/แกมมาอยู่บนประมาณ นั่นห้าสิบ% และ 70% และ เจ็ดสิบสอง% สำหรับสายพันธุ์เดลต้าและอัลฟ่า ดังเช่น

การทดลองในเฟสที่ 1 และ ทั้งสอง บนจัดทำโดยมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดและมหาวิทยาลัยวิสวอเตอร์สแรนด์ ในเดือนมกราคมที่ผ่านมานั้นแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่จำกัดในการป้องกันอาการที่จะไม่รุนแรงในขั้นต้นที่เกิดจากไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เบต้า โดยการทดลองยังไม่สามารถตรวจสอบประสิทธิภาพของวัคซีนในการป้องกันอาการที่รุนแรงได้อย่างเหมาะสม รวมทั้งการลดจำนวนผู้ป่วยที่ต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลและอัตราการเสียชีวิต เนื่องจากผู้ป่วยส่วนใหญ่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว ก็ยังมีข้อเสนอสุขภาพดี และมีอาการของโรคไม่รุนแรงเท่านั้น3

เซอร์ เมเน แพนกาลอส รองประธานบริหารฝ่ายวิจัยและพัฒนาด้านยาชีวเภสัชภัณฑ์ (Biopharmaceuticals) กล่าวว่า “ในขณะที่ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์อย่างมาก กำลังคุกคามและขัดขวางหนทางในการรอดพ้นจากโรคระบาดนี้ หลักฐานจากการใช้จริงของเราได้แสดงให้เห็นว่า Vaxzevria และวัคซีนอื่นๆ บนใช้เก็บในแคนาดา ก็ยังมีข้อเสนอศักยภาพในการป้องกันโรคโควิด-19 บนแสดงอาการรุนแรงในระดับสูงหลังจากการฉีดเพียงเข็มแรก

ต่อมา จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในการสร้างเกราะปกป้องให้กับผู้คนที่เก็บทั่วทุกมุมโลกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อนำไปสู่การยับยั้งไวรัสที่ร้ายแรงนี้”

ผลการวิเคราะห์จากการศึกษาครั้งนี้เป็นการรวบรวมข้อมูลจากผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า SARS-CoV-ทั้งสอง รวมทั้งหมด หกสิบเก้า,533 ของใครบางคน ในช่วงระหว่างเดือนธันวาคม 2020 ถึงพฤษภาคม 2021 ในรัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา โดยแบ่งเป็นผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส SARS-CoV-ทั้งสอง ในสายพันธุ์บนไม่น่ากังวลจำนวน ยี่สิบแปด,705 ของใครบางคน (6.แปด%) และในสายพันธุ์บนน่ากังวลจำนวน 4สิบ,828 ของใครบางคน (9.7%)

Vaxzevria วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า (เดิมเรีหนุน AZD1222) วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า ถูกคิดค้นและพัฒนาร่วมกัน โดยมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดและบริษัท วัคซีเทค ซึ่งก่อตั้งโดยมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด วัคซีนดังกล่าวพัฒนาโดยการนำส่วนของสารพันธุกรรมที่เพื่อใช้ของในการถอดรหัสการ สร้างหนามโปรตีนผิวเซลล์ของไวรัสโคโรนา SARS-CoV-ทั้งสอง วางบนในโครงของอะดีโนไวรัส

ซึ่งก่อให้เกิดโรคไข้หวัดทั่วไปในลิงชิมแปนซี บนถูกทำให้อ่อนแรงลงและไม่สามารถแบ่งตัวได้ โดยหลังจากฉีดวัคซีนเซลล์ในร่างกายมนุษย์จะตอบสนอง โดยการสร้างโปรตีนที่ก็ยังมีข้อเสนอลักษณะเดียวกัไก่ับหนามโปรตีนผิวเซลล์ของไวรัสโคโรนา SARS-CoV-ทั้งสอง ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาเพื่อต่อสู้กับเชื้อไวรัส SARS-CoV-ทั้งสอง ในกรณีบนได้รับเชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกายในภายหลัง

วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า ได้รับรับการขึ้นทะเบียนให้เพื่อใช้ของในภาวะฉุกเฉิน ในกว่า แปดสิบ ชนบท ยิ่งใหญ่ 6 ทวีปทั่วโลก ทั้งนี้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้ากว่า เจ็ดร้อย ล้านโดส ได้รับถูกส่งมอบให้แก่กว่า หนึ่งร้อยเจ็ดสิบ ประเทศทั่วโลก รวมถึงกว่า หนึ่งร้อย ประเทศผ่านกลไกการจัดซื้อ และจัดสรรวัคซีนของโครงการโคแวกซ์

[ad_2]

เหลือบมองหนังออนไลน์